ประวัติสงกรานต์ และประเพณีสงกรานต์

ประวัติสงกรานต์ และประเพณีสงกรานต์  ในช่วงเดือนเมษายนนี้ หลายคนนึกถึงวันหยุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี สงกรานต์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันแห่งความสุข เพราะนอกจากเราจะสาดน้ำให้คลายร้อนได้แล้ว แถมยังมีพักยาว 3-5 วันติดๆ กันอีกด้วย คนส่วนใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์นี้ร่วมกันทำบุญร่วมกับครอบครัวเพื่อไหว้ผู้สูงอายุเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชีวิตและการว่ายน้ำในที่ต่างๆ

ประวัติสงกรานต์ และประเพณีสงกรานต์ 

วันสงกรานต์ หรือ วันมหาสงกรานต์ เป็นวันที่ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลโฮลีของประเทศอินเดีย แต่วันสงกรานต์ของไทยเปลี่ยนจากการสาดสี เป็นการสาดน้ำใส่กัน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเดือนเมษายน และในอีกแง่หนึ่งยังมีความเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ทำให้นิยมเล่นสาดน้ำ และประแป้งกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะไม่ถือโทษโกรธกัน

วันสงกรานต์

ในสมัยโบราณคนไทยถือว่าวันแรกของเดือนไอซึ่งตรงกับเดือนนั้น เดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมทำให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 วันที่ 1 เมษายน ได้เปลี่ยนเป็นวันขึ้นปีใหม่ จนต่อมาในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในปี พ.ศ. 2483 ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันสากลซึ่งก็คือวันที่ 1 มกราคม แต่อย่างไร? คนโบราณยังคุ้นเคยกับวันปีใหม่ไทยในเดือนเมษายน ดังนั้นวันที่ 13 เมษายน จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย

คำว่าสงกรานต์นั้นมีความหมายน่ะ

คำว่า “สงกรานต์” มาจากภาษาสันสกฤต ที่มีความหมายว่า “การเคลื่อนย้าย” โดยเชื่อว่าในวันสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาการเคลื่อนย้ายของจักรราศี อีกนัยหนึ่งก็คือการเคลื่อนสู่ปีใหม่ ทำให้คนไทยยึดถือวันสงกรานต์เป็น “วันขึ้นปีใหม่ไทย” มาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกระทั่ง พ.ศ. 2483 ก่อนจะปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแบบแผนสากลนิยม ซึ่งก็คือวันที่ 1 มกราคมของทุกปีทั้งนี้ การละเล่นสงกรานต์ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา ลาว รวมถึงบางพื้นที่ของเวียดนาม จีน ศรีลังกา และอินเดีย

กิจกรรมสงกรานต์

ทำบุญตักบาตรวันสงกรานต์ คนจะตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารและถวายภัตตาหารเพล หลังจากเตรียมอาหารเสร็จแล้วก็จะถูกจัดวางในภาชนะที่มีถ้วยชามที่สวยงามและวิจิตรบรรจง และจัดใส่ถาดใส่บาตรในหมู่บ้าน เสื้อผ้าสวยๆ เหมาะไปวัดของชาวบ้าน

สร้างเจดีย์ทรายในอดีต ว่ากันว่าเมื่อทุกคนเข้าไปในวัด เวลาออกจากวัด จะมีเม็ดทรายอยู่ที่พระบาทของพระองค์ เลยเติมทรายเข้าวัดหรือสร้างเจดีย์ทรายเอง แต่วิธีการสร้างเจดีย์ ทรายเป็นเพียงหนึ่งในกิจกรรมที่ชาวบ้านมีส่วนร่วม เพราะในตอนเย็นชาวบ้านจะไปที่ท่าเรือและขนถังทรายไปทำทรายในแผนกเกลือเพราะเมื่อทรายเข้าสู่วัด ทราย จะล้นวัด พระภิกษุจะนำทรายมา ชาวบ้านจึงนำทรายกลับคืนสู่แม่น้ำเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร และเมื่อขนทรายเข้าวัดก็ควรบรรทุกเล็กน้อยเพราะจะทำให้สามเณรลำบากในภายหลัง

อาบน้ำ รดน้ำ เล่นน้ำ สรงพระพุทธรูป ถวายดอกไม้ ธูป เทียน และโปรยน้ำบนองค์พระ ทำให้สั้นพอที่จะบูชาและอาบน้ำในปีใหม่เมื่อนำพระพุทธรูป มีขบวนแห่สนุกสนาน สรงน้ำพระ และสรงพระ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นพิธีสรงน้ำพระ หลังจากภิกษุสามเณรถวายผ้าใหม่เสร็จแล้ว แล้วขึ้นไปกล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กับผู้ที่อาบน้ำ นอกจากนี้ บรรดาผู้ใหญ่และญาติๆ ยังได้รดน้ำขอพรตามประเพณีอีกด้วย

เรื่องเล่า “ตำนานนางสงกรานต์

สำหรับประวัติวันสงกรานต์ หรือกำเนิดวันสงกรานต์ มักมีเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงถึง “ตำนานนางสงกรานต์” โดยอ้างอิงตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯตำนานเล่าว่า มีเศรษฐีฐานะร่ำรวยคนหนึ่ง ไม่มีบุตร จึงไปบวงสรวงขอบุตรกับพระอาทิตย์ และพระจันทร์ แต่รอหลายปีก็ไม่มีบุตรสักที จนกระทั่งถึงฤดูร้อนปีหนึ่ง เศรษฐีได้นำข้าวสารซาวน้ำ 7 สี หุงบูชารุกขพระไทร พร้อมเครื่องถวาย และการประโคมดนตรี โดยได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบุตร พระไทรได้ฟังก็เห็นใจ จึงไปขอบุตรกับพระอินทร์ให้เศรษฐี ต่อมาเศรษฐีได้บุตรชาย และตั้งชื่อว่า “ธรรมบาลกุมาร”

ธรรมบาลกุมารเป็นคนฉลาดหลักแหลม จนมีชื่อเสียงร่ำลือไปไกล ทำให้ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาท้าทายปัญญา โดยได้ถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร ให้เวลา 7 วัน หากฝ่ายใดแพ้จะต้องตัดศีรษะบูชา ท้ายที่สุดธรรมบาลกุมารสามารถตอบปัญหาได้ ท้าวกบิลพรหมจึงต้องเป็นฝ่ายตัดศีรษะ แต่หากศีรษะนี้ตกลงพื้นโลก จะเกิดเพลิงไหม้โลกท้าวกบิลพรหมจึงสั่งให้บาทบาจาริกาของพระอินทร์ทั้ง 7 นาง สลับหน้าที่หมุนเวียนทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียร หรือศีรษะของตนแห่รอบเขาพระสุเมรุ ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งตรงกับช่วงมหาสงกรานต์ โดยนางสงกรานต์ทั้ง 7 มีชื่อ ดังนี้

1. นางทุงษะเทวี
2. นางรากษเทวี
3. นางโคราคเทวี
4. นางกิริณีเทวี
5. นางมณฑาเทวี
6. นางกิมิทาเทวี
7. นางมโหธรเทวี

คติความเชื่อ และเรื่องราวประวัติวันสงกรานต์ จึงเชื่อมโยงกับโหราศาสตร์การเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษในช่วงวันมหาสงกรานต์ โดยในแต่ละปีก็จะมีชื่อนางสงกรานต์ทั้ง 7 สลับหมุนเวียนกันนั่นเอง

กิจกรรมในวันสงกรานต์ 2565

กิจกรรมทั่วไปในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ คนไทยนิยมเล่นน้ำ ประแป้ง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระวันสงกรานต์ ใครที่อยู่ห่างไกลครอบครัว ก็จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองวันปีใหม่ไทย รวมถึงกล่าวคำอวยพร “สุขสันต์วันสงกรานต์” และ “สวัสดีวันสงกรานต์” ให้แก่กันนอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวสำหรับจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ก็สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้วันสงกรานต์ของไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกสำหรับปีนี้ มีสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องจัดงานโดยดำเนินมาตรการคุมเข้มทางสาธารณสุข ผู้ร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน รวมถึงใช้เจลล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อโรค

บทความแนะนำ

ประวัติและความเชื่อ ‘วันลอยกระทง’ ประเพณีไทย

ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย